สายตายาวตามอายุเกิดจาก อะไร ทำเลสิกได้ไหม ไขข้อสงสัยคนวัย 40+

สายตายาวตามอายุเกิดจาก อะไร

เมื่ออายุขึ้นเลขสี่เป็นช่วงวัยที่ร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ผิวพรรณไม่สดใส ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ไม่แข็งแรงกระฉับกระเฉง สุขภาพอ่อนแอลง และโดยเฉพาะปัญหาสายตายาวตามอายุที่รู้สึกได้ชัดเจน เพราะมองใกล้แล้วเบลอ ส่งผลให้ใช้ชีวิตประจำวันลำบากขึ้น หลายคนคงมีคำถามต่าง ๆ เกิดขึ้นมาเกี่ยวกับสายตายาวตามอายุ วันนี้เลยขอมาแบ่งปันความรู้ดี ๆ ว่า สายตายาวตามอายุเกิดจาก สาเหตุอะไรบ้าง ไขข้อสงสัยที่คนวัยนี้อยากรู้กัน

 

 

สายตายาวตามอายุหรือสายตายาวตามวัยคืออะไร

สายตายาวตามอายุ หรือ สายตายาวตามวัย หรือ สายตายาวผู้สูงอายุ (Presbyopia) คือ ปัญหาสายตา ที่สามารถพบได้เมื่ออายุประมาณ 38-40 ปีขึ้นไป โดยจะเริ่มมีปัญหาในการมองเห็นระยะใกล้หรือวัตถุขนาดเล็ก เริ่มไม่ชัดเจนเหมือนเดิม ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ทำอะไรได้ไม่คล่องแคล่ว ความสามารถการทำงานลดลง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุง่าย ขาดความมั่นใจ เสียบุคลิกภาพ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ลำบากยิ่งขึ้น หากอ่านหนังสือหรือดูมือถือต้องยืดแขนออกไประยะไกลกว่าเดิม หรือขยายตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้มองเห็นตัวอักษรหรือภาพได้ชัด ภาวะสายตายาวตามอายุ ไม่สามารถหายเองได้ เพียงแต่มีวิธีชะลอค่าสายตาและแก้ไขให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนและมั่นใจยิ่งขึ้น

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดสายตายาวตามอายุ

สายตายาวตามอายุเป็นกระบวนการเสื่อมสภาพของดวงตาที่เกิดขึ้นกับทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่ออายุเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยเสี่ยงบางประการที่อาจกระตุ้นให้ภาวะนี้เกิดขึ้นเร็วหรือมีอาการที่สังเกตได้ชัดเจนกว่าคนทั่วไป ดังนี้

  • อายุ: เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักและโดยตรงที่สุด โดยส่วนใหญ่จะเริ่มสังเกตเห็นอาการได้ชัดเจนในช่วงอายุ 40 – 45 ปี
  • ประวัติครอบครัว: หากคนในครอบครัวมีประวัติสายตายาวตามอายุเร็วกว่าปกติ ก็มีแนวโน้มที่คุณอาจจะเผชิญภาวะนี้เร็วขึ้นเช่นกัน
  • ภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อม: มีการศึกษาพบว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตร้อนหรือใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ในปริมาณสูง อาจมีแนวโน้มเกิดภาวะสายตายาวตามอายุได้เร็วกว่า
  • ภาวะสุขภาพ: โรคประจำตัวบางชนิดมีผลต่อสุขภาพของเลนส์แก้วตาและกล้ามเนื้อตาโดยตรง

โรคบางชนิดอาจทําให้เกิดภาวะสายตายาวก่อนวัยอันควร

สุขภาพร่างกายโดยรวมมีความเชื่อมโยงกับสุขภาพดวงตาอย่างใกล้ชิด โรคประจำตัวหรือการใช้ยาบางชนิดสามารถเร่งกระบวนการเสื่อมของเลนส์แก้วตา และทำให้เกิดภาวะสายตายาวก่อนวัย (Premature Presbyopia) ได้ ซึ่งหมายถึงการเกิดภาวะนี้ก่อนอายุ 40 ปี

  • โรคเบาหวาน: ระดับน้ำตาลในเลือดที่ควบคุมไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเลนส์แก้วตา ทำให้เลนส์บวมและสูญเสียความยืดหยุ่นเร็วกว่าปกติ
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด: ภาวะที่การไหลเวียนของเลือดไม่ดี อาจทำให้ดวงตาไม่ได้รับสารอาหารและออกซิเจนอย่างเพียงพอ ส่งผลต่อสุขภาพของเลนส์ตาและกล้ามเนื้อโดยรอบ
  • โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis – MS): เป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของเส้นประสาทที่ควบคุมดวงตาได้
  • การใช้ยาบางชนิด: ยาบางกลุ่ม เช่น ยาต้านอาการซึมเศร้า (Antidepressants), ยาแก้แพ้ (Antihistamines) และยาขับปัสสาวะ (Diuretics) อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้ความสามารถในการเพ่งมองระยะใกล้ลดลง

หากคุณมีภาวะสุขภาพเหล่านี้และสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในการมองเห็นระยะใกล้ ควรปรึกษาแพทย์และนักทัศนมาตรเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

อาการที่บอกว่าเริ่มมีสายตายาวตามอายุ

ในคนไข้บางรายจะเริ่มมีอาการเมื่ออายุ 38-40 ปี และจะค่อย ๆ แสดงอาการมากขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงอายุ 65 ปี อาการของสายตายาวตามอายุที่สังเกตได้ด้วยตัวเอง มีดังนี้

1. มองวัตถุที่อยู่ในระยะใกล้ไม่ชัดเจน หรือบางครั้งก็ไม่ชัดทั้งระยะใกล้และไกล

2. อ่านตัวอักษรขนาดเล็กได้ไม่ชัดเจน มักหรี่ตาเมื่อต้องมองในระยะใกล้

3. เมื่อถือหนังสือหรือสมาร์ทโฟนในระยะที่ห่างออกไปจึงจะมองเห็นดีขึ้น

4. มีอาการตาล้า ปวดตา หรือปวดศีรษะ เมื่อใช้สายตามองระยะใกล้เป็นเวลานาน

5. ผู้ที่ใส่แว่นสายตาสั้นอยู่แล้วเมื่อมองระยะไกล ต้องยกแว่นขึ้นเพื่อให้มองเห็นได้ชัด

6. การมองโฟกัสภาพจากระยะใกล้มาไกล หรือ ระยะไกลมาใกล้ ทำได้ยากขึ้น

7. มองไม่ค่อยเห็นในที่ที่มีแสงน้อย หรือ มองภาพไม่ชัดในเวลากลางคืน

การตรวจวินิจฉัยภาวะสายตายาวตามอายุ

การวินิจฉัยภาวะสายตายาวตามอายุนั้นตรงไปตรงมาและไม่ซับซ้อน โดยนักทัศนมาตรจะทำการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียด ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้

  1. การซักประวัติ (History Taking): นักทัศนมาตรจะเริ่มต้นด้วยการสอบถามอาการที่คุณพบเจอ เช่น มองใกล้ไม่ชัดตอนไหน, ต้องยื่นแขนออกไปไกลขึ้นหรือไม่, มีอาการปวดหัวหรือตาล้าหรือไม่ รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์การใช้สายตาและประวัติสุขภาพ
  2. การวัดความคมชัดของการมองเห็น (Visual Acuity Test): คุณจะได้อ่านตัวอักษรหรือตัวเลขจากแผนภูมิมาตรฐาน (Snellen Chart) เพื่อประเมินการมองเห็นระยะไกล และอ่านจากแผ่นทดสอบระยะใกล้ (Near Point Chart) เพื่อประเมินความสามารถในการมองเห็นระยะอ่านหนังสือ
  3. การวัดค่าสายตา (Refraction): เป็นขั้นตอนที่คุณจะได้มองผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า Phoropter ซึ่งมีเลนส์ค่าต่าง ๆ เพื่อให้นักทัศนมาตรหาค่าสายตาที่เหมาะสมที่สุดที่ทำให้คุณกลับมามองเห็นระยะใกล้ได้คมชัดและสบายตาอีกครั้ง
  4. การตรวจสุขภาพตา (Eye Health Examination): เพื่อให้แน่ใจว่าอาการมองใกล้ไม่ชัดนั้นเกิดจากภาวะสายตายาวตามอายุเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคตาอื่น ๆ แอบแฝง นักทัศนมาตรจะทำการตรวจสุขภาพตาเบื้องต้นร่วมด้วย

การป้องกันภาวะสายตายาวตามอายุ

เนื่องจากสายตายาวตามอายุเป็นกระบวนการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติของร่างกาย จึงเป็นภาวะที่ “ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้” อย่างไรก็ตาม เราสามารถดูแลสุขภาพดวงตาโดยรวมเพื่อชะลอความเสื่อมของส่วนอื่น ๆ และรับมือกับภาวะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย THE NEXT ขอแนะนำแนวทางปฏิบัติดังนี้

  • ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ: นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด การตรวจตากับนักทัศนมาตรอย่างน้อยทุก 1-2 ปี จะช่วยให้คุณได้รับค่าสายตาที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันเสมอ ทำให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสบายตาและมีประสิทธิภาพ
  • ปกป้องดวงตาจากรังสี UV: สวมแว่นกันแดดที่มีคุณภาพและสามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ 100% ทุกครั้งเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง เพื่อช่วยปกป้องเลนส์แก้วตาจากความเสื่อมก่อนวัย
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นผักใบเขียวและผลไม้สีสันสดใส ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอ, ซี, อี และสารอาหารอย่างลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ที่มีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพจอประสาทตา
  • จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม: ใช้แสงสว่างที่เพียงพอสำหรับการอ่านหนังสือหรือทำงานระยะใกล้ เพื่อลดอาการตาล้า
  • พักสายตาเป็นระยะ: หากต้องทำงานหน้าจอหรืออ่านหนังสือนาน ๆ ควรพักสายตาทุก 20 นาที ด้วยการมองไปไกล ๆ 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที (กฎ 20-20-20) เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา

วิธีการแก้ไขสายตายาวตามอายุ

สายตายาวตามอายุยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่แก้ไขให้มองเห็นชัดขึ้นได้ ปัจจุบันมีหลากหลายวิธี ได้แก่

1. เลนส์แว่นตา แบ่งออกเป็น 4 ชนิด 

  • เลนส์ชั้นเดียว (Single lens) เป็นเลนส์ที่มีค่าสายตาเดียวทั้งตัวเลนส์ สามารถตัดเป็นเลนส์ใช้สำหรับอ่านหนังสือ (Reading glasses) หรือสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาว ก็ใช้แว่นเลนส์สายตาชั้นเดียว สำหรับมองไกล ใส่แยกเป็นแว่นตา 2 ตัว
  • เลนส์สองชั้น (Bifocal lens) เป็นเลนส์ที่มีรูปถ้วยด้านล่างทำให้มองระยะไกลในส่วนบน และ มองระยะใกล้ผ่านส่วนถ้วย
เลนส์สองชั้น
เลนส์สองชั้น
  • เลนส์เฉพาะทาง (Office lens) เหมาะกับผู้ที่ทำงานออฟฟิศ ต้องใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์ จะช่วยให้มองระยะกลาง และ ระยะใกล้บริเวณรอบโต๊ะทำงาน หรือช่วงสุดปลายแขนได้ชัดเจน แต่มีข้อจำกัดคือ ไม่สามารถมองไกลได้ด้วยเลนส์ชนิดนี้
  • เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive lens) หรือ เลนส์ไร้รอยต่อ เลนส์ชนิดนี้จะมีการไล่ค่าสายตา หลายค่าสายตารวมอยู่ในเลนส์ชิ้นเดียว ทำให้การมองเห็นคมชัดได้ในทุก ๆ ระยะ
เลนส์โปรเกรสซีฟ
เลนส์โปรเกรสซีฟ

 

สอบถามรายละเอียด ปรึกษาฟรี

2. คอนแทคเลนส์ แบ่งเป็น 2 ชนิด

คอนแทคเลนส์สายตายาวตามวัย (Multifocal) ช่วยแก้ไขปัญหาสายตาสั้น สายตายาว และสายตายาวตามอายุ โดยอาศัยหลักการของขนาดรูม่านตา ปัจจุบันมีแบรนด์ที่จัดจำหน่ายในท้องตลาด เช่น ยี่ห้อ Bausch & Lomb และ Acuvue หากต้องการใช้คอนแทคเลนส์แก้สายตายาวตามอายุ ควรต้องมีการทดลองเลนส์ก่อนเสมอ

คอนแทคเลนส์แบบ Monovision คือคอนแทคเลนส์ทั่วไป แต่มีการจ่ายค่าสายตา โดยอาศัยหลักการโมโนวิชชัน (Monovision) ที่ตาหลักหรือตาข้างถนัดใช้มองระยะไกล ส่วนตารองใช้มองระยะใกล้ ควรปรึกษาจักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรเพื่อพิจารณาจ่ายค่าสายตาคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสมให้ก่อน ควรมีการทดลองก่อนว่าสามารถปรับตัวกับการใช้งานโมโนวิชชัน (Monovision) ได้หรือไม่ 

3. เลสิกสายตายาว (Lasik) เป็นการใช้เลเซอร์ยิงปรับความโค้งของกระจกตาเพื่อช่วยให้มองเห็นชัดขึ้น ปัจจุบันจะใช้หลักการโมโนวิชัน คล้ายกับการใส่คอนแทคเลนส์ หรือ เทคโนโลยีใหม่ Presbylasik 

4. การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (Refractive Lens Exchange) เป็นการผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียมที่แก้ค่าสายตา เข้าไปแทนที่เลนส์แก้วตาเดิม คล้ายกับการผ่าตัดลอกต้อกระจก (Cataract surgery) แต่ทำเพื่อแก้ไขปัญหาค่าสายตายาวตามอายุ สามารถเลือกเลนส์แก้วตาเทียม ชนิดหลายระยะ หรือสองระยะ 

สายตายาวทำเลสิกได้ไหม

คนสายตายาว สายตายาวตามอายุสามารถทำเลสิกได้ โดยเลสิก (Lasik) เป็นการยิงเลเซอร์ที่กระจกตาเพื่อเปลี่ยนรูปร่างความโค้ง และเจียรเนื้อกระจกตา ให้สามารถรวมแสงตกกระทบที่จุดรับภาพได้พอดี ทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้น การรักษาด้วยวิธีเลสิกเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาในกรณีที่มีภาวะสายตายาวตามอายุ ทำได้ 3 แบบ คือ

1. เลสิกแบบ Full Correction

เป็นการยิงเลเซอร์ปรับความโค้งของกระจกตา เพื่อช่วยให้มองระยะไกลได้ชัดที่สุด แก้ไขปัญหาสายตาสั้น สายตาเอียง และสายตายาวแต่กำเนิด แต่ยังคงมีค่าสายตายาวตามอายุคงเหลืออยู่ เนื่องจากวิธีแก้ไขค่าสายตาด้วยเลเซอร์ไม่สามารถแก้ไขสายตายาวตามอายุได้  จึงจำเป็นต้องสวมใส่แว่นเพื่อช่วยในการมองระยะกลางหรือใกล้

2. เลสิกแบบ Monovision

เป็นการยิงเลเซอร์ทำให้ตาแต่ละข้างมองเห็นระยะไม่เหมือนกัน ตาข้างถนัด (Dominance Eye) ใช้มองระยะไกลได้ชัดเจน ส่วนตาข้างที่ไม่ถนัดใช้มองระยะใกล้ แต่วิธีนี้จำเป็นต้องใช้เวลาปรับตัวเนื่องจากค่าสายตาไม่เท่ากัน รวมถึงการมองไกลเวลากลางคืน การกะระยะ อาจประสิทธิภาพลดลง

3. เลสิกแบบ Presbylasik

เป็นการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์สมัยใหม่ ปรับความโค้งกระจกตาให้สัมพันธ์กับการทำงานของม่านตา แก้ไขปัญหาสายตาแต่กำเนิดไปพร้อมกับสายตายาวตามอายุ ทำให้มองเห็นได้ชัดทุกระยะ ทั้งระยะใกล้ กลาง และไกล ใช้เวลาปรับตัวน้อย แต่วิธีนี้การมองระยะไกลอาจไม่คมชัดเท่าวิธี Full Correction ในบางเวลาที่จำเป็น เช่น ขับรถตอนกลางคืน แนะนำให้ใส่แว่นสายตาเพื่อช่วยให้มองไกลชัดขึ้น

ก่อนตัดสินใจทำเลสิกควรรู้สิ่งนี้

สายตายาวเท่าไหร่ควรใส่แว่น

คนที่มีอาการแสดงของภาวะสายตายาวตามอายุ หรือมีค่าสายตายาว (Addition) ตั้งแต่ +0.75 ไดออปเตอร์ขึ้นไป ควรใส่แว่นสายตาเพื่อช่วยให้มองเห็นในระยะต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น เพราะปัญหาสายตายาวตามอายุที่มองใกล้หรือทุกระยะไม่ชัด ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เกิดอุบัติเหตุง่าย เสียบุคลิกภาพ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ไม่คล่องแคล่ว จึงแนะนำให้ตรวจวัดค่าสายตาและตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี เพราะเมื่ออายุมากขึ้นค่าสายตาจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม รวมถึงเริ่มมีปัญหาสุขภาพตาและอาจมีโรคตาร่วมด้วย

ตารางสายตายาวตามอายุ

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าเมื่ออายุมากขึ้น สายตายาวตามวัยเริ่มเป็นปัญหาที่ส่งผลให้ใช้ชีวิตลำบาก เพราะมองเห็นไม่ชัดในระยะใกล้ หรือบางคนก็มองเห็นไม่ชัดทุกระยะทั้งใกล้และไกล แม้ว่าวิธีรักษามีหลายแบบ แต่อย่างไรก็ตามแว่นตาก็ยังคงเป็นตัวช่วยที่ปลอดภัยและง่ายที่สุด เพราะวิธีแก้ไขปัญหาสายตาต่าง ๆ อย่าง เช่น การทำเลสิก ไม่ได้หมายความว่าค่าสายตาของทุกคนจะกลับมาปกติอยู่ที่ 0.00 ไดออปเตอร์ และยังไม่สามารถแก้ไขสายตายาวตามอายุให้หายขาดได้

ดังนั้นแว่นตาจึงยังจำเป็นต้องสวมใส่อยู่ เพื่อเสริมให้มองเห็นคมชัดมากขึ้นและถนอมสุขภาพตา โดยแว่นสายตายาวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ แว่นโปรเกรสซีฟ หรือ เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) ตัวช่วยแก้ปัญหาสายตายาวตามวัยของคนอายุ 40 ปีขึ้นไป

ตารางสายตายาวตามอายุ

ตารางประมาณการค่าสายตายาวตามอายุ

อายุ

กำลังแว่นตา (Diopter)

38-39 ปี +0.75
39-40 ปี +1.00
41-42 ปี +1.25
43-45 ปี +1.50
46-47 ปี +1.75
48-50 ปี +2.00
51-53 ปี +2.25
54-55 ปี +2.50
56-58 ปี +2.75
59-60 ปีขึ้นไป +3.00 ขึ้นไป

สรุป

สรุป ปัญหา สายตายาวตามอายุเกิดจาก หลายสาเหตุ โดยปัจจัยหลักคืออายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป สำหรับการทำเลสิกเพื่อแก้ปัญหาสายตายาวตามอายุสามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตามมีหลายปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถทำเลสิกได้ โดยเฉพาะกระจกตาไม่หนาหรือแข็งแรงเพียงพอ หรือแม้แต่การทำเลสิกก็อาจไม่ได้ช่วยทำให้ค่าสายตากลับมาปกติเหมือนเดิม

ดังนั้นแว่นโปรเกรสซีฟจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาสายตายาวตามอายุ มีคุณสมบัติเด่นที่เป็นเลนส์หลายชั้นไร้รอยต่อ มองเห็นคมชัดทุกระยะ ทั้งระยะใกล้ ระยะกลาง และระยะไกล ผู้ที่อยากตัดแว่นเลนส์โปรเกรสซีฟ ร้านแว่นตา THE NEXT พร้อมให้บริการโดยจักษุแพทย์และนักทัศนมาตร คัดสรรเลนส์โปรเกรสซีฟจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และกรอบแว่นแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ดัง สามารถรับบริการได้ที่ร้านแว่นตา THE NEXT บนห้างสรรพสินค้าชั้นนำกว่า 32 สาขาทั่วไทย

ร้านแว่นตา The Next

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

facebook the nextig the nextline the nexttiktokshopee the nextlazada the next

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า