Photophobia ภาวะตาแพ้แสง อาการเป็นยังไง อันตรายไหม?

ตาแพ้แสง ไม่ใช่แค่อาการแสบตาเวลาเจอแสงจ้า แต่อาจเป็นสัญญาณอันตรายของสุขภาพตา หลายคนอาจจะคิดว่าเมื่อเรามีอาการเจ็บตา น้ำตาไหลเวลาเจอแสงจ้า ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด หน้าจอมือถือ หรือแม้แต่ไฟนีออนในห้อง เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่จริงๆแล้วมันคือหนึ่งในสัญญาณของภาวะ Photophobia หรือภาวะตาแพ้แสง ตากลัวแสง ซึ่งเกิดขึ้นได้ง่ายมากกับทุกคน วันนี้ THE NEXT จะพาทุกคนไปรู้จักกับภาวะนี้ว่าอันตรายขนาดไหน วิธีรักษาตาแพ้แสงทำได้อย่างไรบ้าง เรามีคำตอบให้แน่นอน

ภาพคนเอามือบังแดด

Photophobia คืออะไร?

Photophobia ไม่ใช่โรคแต่เป็นอาการเมื่อดวงตาของเรามีความไวต่อแสงมากกว่าปกติ จนทำให้ไม่สามารถมองแสงธรรมชาติ แสงจากจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ได้ บางคนอาจมีอาการ แสบตา น้ำตาไหล ปวดกระบอกตา หรือบางคนอาจจะถึงขั้นปวดไมเกรนได้เลยทีเดียว ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของกระจกตา จอประสาทตา หรือโรคตาอื่นๆ รวมถึงเรื่องของสีตา เพราะคนที่มีสีตาอ่อน มักจะมีความไวต่อแสงมากกว่า เพราะมีเม็ดสีMelanin ในม่านตาน้อยกว่า ทำให้ดวงตาดูดซับและป้องกันแสงได้น้อย

อาการของภาวะตาแพ้แสง

สามารถเช็กได้ด้วยตัวเองง่ายๆ เช่น แสบตาหรือเจ็บตาเมื่ออยู่ในที่สว่างน้ำตาไหลเองโดยไม่รู้ตัว, ปวดตา ปวดศีรษะ โดยเฉพาะเวลาใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานานตาพร่ามัว มองอะไรไม่ชัดเมื่อเจอแสงจ้ากระพริบตาบ่อย ๆ เพราะพยายามเลี่ยงแสง หรือรู้สึกต้องหรี่ตาหรือปิดตาทันทีเมื่อเจอแสง หรือสามารถเช็กได้ที่เว็บไซต์ของ Transitions.com คลิกที่นี่

ภาวะตาแพ้แสง อันตรายยังไง?

ถ้าเรามีอาการตาแพ้แสง อาจเป็นสัญญาณของโรคที่น่ากลัวไม่ใช่แค่ที่ดวงตาแต่อาจเกี่ยวกับระบบประสาทได้เลย เพราะฉะนั้นหากคุณมีอาการตาแพ้แสงรุนแรง แนะนำให้พบจักษุแพทย์ ซึ่งร้านแว่น THE NEXT นอกจากมีบริการตรวจวัดสายตาแล้ว เรายังมีจักษุแพทย์คอยให้คำแนะนำและตรวจสุขภาพดวงตาของเราได้เพื่อให้เราห่างไกลจากอันตรายเหล่านี้ เช่น

  • โรคตาแห้ง
  • ต้อหิน
  • กระจกตาอักเสบ
  • เยื่อบุตาอักเสบ
  • ไมเกรนซึ่งมักมาพร้อมอาการตาแพ้แสง
  • ความผิดปกติที่เกี่ยวกับระบบประสาท เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ แม้จะพบไม่บ่อยแต่ก็อันตรายมาก

สาเหตุของ Photophobia เกิดจากสิ่งใกล้ตัว

  1. โทรศัพท์มือถือการจ้องมือถือเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในที่มืด ทำให้ดวงตาเหนื่อยล้าและไวต่อแสงมากขึ้น
  2. โทรทัศน์และคอมพิวเตอร์หน้าจอใหญ่ๆ ที่มีความสว่างสูง หากนั่งใกล้เกินไปหรือนานเกินไป ก็ทำให้เกิด Photophobia ได้เช่นกัน
  3. แสงไฟนีออนแสงไฟสีขาวจ้าและกะพริบ ทำให้ตารู้สึกแสบและล้าได้ง่าย
  4. แสงแดดจัดการออกไปกลางแจ้งโดยไม่ใส่แว่นกันแดด ดวงตาจะโดนรังสี UV ทำให้ไวต่อแสงมากขึ้น ซึ่งร้านแว่น THE NEXT ไม่ได้มีแค่แว่นสายตา แต่เรายังมีแว่นกันแดดให้เลือกหลายแบบ หลายทรงที่ตอบโจทย์กับทุกคน
  5. ยาบางชนิดยารักษาโรคบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการแพ้แสง

วิธีรักษาตาแพ้แสง

ภาวะตาแพ้แสงจริงๆ อาจเลี่ยงได้ยาก เพราะเราต้องเจอแสงในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำได้คือเราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อถนอมดวงตาของเราให้มากที่สุด เช่น

  1. เลือกแว่นที่สามารถกันรังสี UV ได้จริง เพื่อปกป้องดวงตาเมื่อออกกลางแจ้ง
  2. พักสายตาจากหน้าจอทุกๆ 20 นาที
  3. ปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอในที่มืดสนิทหรือปรับโหมดแสงถนอมสายตาขณะใช้โทรศัพท์มือถือ
  4. ทานอาหารบำรุงสายตา เช่น ผักใบเขียว แครอท บลูเบอร์รี่ หรือปลาที่มีโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงจอประสาทตา
  5. ใช้น้ำตาเทียมเพื่อลดอาการตาแห้งและระคายเคือง

แต่ถ้าหากคุณมีอาการแพ้แสงรุนแรงเกิน 1-2 สัปดาห์การพบจักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์อย่างเช่นที่ร้าน THE NEXT จะทำให้เราสามารถรู้สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เรามีภาวะตาแพ้แสงรวมถึงสามารถรักษาได้เร็ว โดยสามารถนัดหมายล่วงหน้าเพื่อตรวจสุขภาพตาได้ที่ร้านแว่น THE NEXT ผ่านทาง Facebook หรือ LINE @Thenextoptical พร้อมแจ้งสาขาและวันเวลาที่คุณสะดวกได้เลย

ใส่แว่นช่วยป้องกันภาวะตาแพ้แสง

การใส่แว่นสามารถช่วยบรรเทาอาการตาแพ้แสงได้เพราะแว่นที่เหมาะสมจะช่วยลดการกระทบของแสงต่อดวงตา ทำให้เรารู้สึกสบายตาขึ้น ไม่ต้องหรี่ตาหรือหลบแสงตลอดเวลา

1.แว่นกันแดด (Sunglasses)

ควรเลือกเลนส์ที่สามารถกรองรังสี UV400 ได้ 100%เลนส์สีเทา น้ำตาล หรือเขียว จะช่วยลดความจ้าและทำให้มองเห็นสบายตาขึ้น (อ่านบทความ: สีของเลนส์แว่นตา เลนส์เปลี่ยนสี ปกป้องดวงตาแตกต่างกันอย่างไร)

2.เลนส์กรองแสงสีฟ้า (Blue Light Filter)

เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตหน้าจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์บ่อยๆ ลดการรับแสงสีฟ้าที่ทำให้ตาล้าและกระตุ้นอาการแพ้แสง (ดูเลนส์กรองแสงสีฟ้า คลิก)

3.เลนส์โฟโตโครมิก (Photochromic Lens)

การเลือกใช้เลนส์ชนิดนี้เหมาะมากกับคนที่ต้องเจอทั้งแสงหน้าจอและแสงแดด เพราะมันมีความสามารถพิเศษที่จะปรับเปลี่ยนสีตามสภาพแสงได้ เมื่ออยู่ในที่ร่มเลนส์จะใสปกติ แต่เมื่อเจอแสงจ้าเลนส์จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเข้ม ทำให้ผู้ใส่สะดวกสบายไม่ต้องสลับระหว่างแว่นสายตากับแว่นกันแดด (อ่านบทความ: เลนส์โฟโตโครมิก คืออะไร ? สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ คลิก)

สรุป

Photophobia หรือภาวะตาแพ้แสง ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเพราะอาจซ่อนความอันตรายเกี่ยวกับโรคตาและโรคเกี่ยวกับระบบประสาทบางชนิดเอาไว้ การดูแลดวงตาจึงสำคัญมาก เพราะเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากแสงแดดหรือแสงจากหน้าจอมือถือและคอมพิวเตอร์ได้ถ้าใครเริ่มมีอาการแสบตา เจ็บตา หรือน้ำตาไหลเวลาเจอแสง ควรเริ่มปรับพฤติกรรมง่ายๆ เช่น พักสายตา ใส่แว่นกันแดด ปรับแสงหน้าจอ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง โดยที่ร้านแว่น THE NEXT มีจักษุแพทย์ให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคลทั้งในเรื่องสุขภาพตาและการตัดแว่นเพื่อช่วยถนอมสายตาของคุณ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า